สวัสดีค่ะ มุกไงจะใครหล่ะ 😀 เกริ่นเบาๆ ก่อนละกันว่าเรียนเอกดนตรีนี่หาวันหยุดแทบไม่ได้เลยนะ เพราะสุดท้ายแล้ววันหยุดก็ต้องซ้อมอยู่ดี (น่าเศร้าเนอะ) แต่เอาเป็นว่ามุกก็พยายามหามาได้แล้ววันนึงในที่สุด เย่ๆๆ ไปเที่ยวกันเถอะ!
เวลาวันเดียว เที่ยวใกล้ๆ มีที่ไหนให้ไปบ้าง เป็นคำถามที่ถามตัวเองและคนรอบข้างอยู่บ่อยๆ มีคำตอบนึงที่น่าสนใจมาก ว่ามันมาได้ยังไง นั่นก็คือเมือง Schwäbisch Hall เอาตรงๆ คือรู้จักเมืองนี้ได้เพราะมีเพื่อนๆ พี่ๆ หลายคนเคยเรียนภาษาอยู่ที่เมืองนี้ ไม่งั้นก็ไม่น่าจะรู้จักได้
เอาวะ ไปก็ไป ตอนแรกก็แอบคิดว่าไปแล้วจะมีอะไรมั้ยนะ จะไปเสียเที่ยวรึเปล่า แต่ก็ดันมีข่าวลงว่าแม่น้ำที่นั่นกลายเป็นน้ำแข็งหมด อย่างงี้สิค่อยน่าสนใจหน่อย
การเดินทางไป Schwäbisch Hall เรียกได้ว่าไม่ยากเลยเปลี่ยนรถแค่ครั้งเดียวเท่านั้นเอง ออกจาก Karlsruhe ตั้งแต่ 6 โมงครึ่งเช้าตรู่ ถึงที่หมายเกือบ 9 โมงเช้า ….วันอาทิตย์! โอ้โห เมืองร้างชัดๆ เลยค่ะพี่น้องทุกท่าน
ระหว่างที่เดินจากสถานีรถไฟเข้าไปตัวเมืองรู้สึกเหมือนมาอยู่ผิดที่ผิดทาง คิดว่าซวยแล้ว มันจะไหวมั้ยเนี่ยเมืองนี้ จนกระทั่งไปถึงแม่น้ำ แต่ก็นั่นแหละค่ะท่านผู้ชม สิ่งที่รอคอยมันอยู่ต่อหน้าแล้ว…
แม่น้ำ Kocher เป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ไหลตัดทางฝั่งจะวันออกเฉียงเหนือของรัฐ Baden-Württemberg ตอนที่เห็นครั้งแรกกว่าตัวเองตาฝาดเลย คือมันสวยมากจริงๆ ถือเป็นความโชคดีเลยแหละที่มาเช้า และมาในวันที่คนทั่วไปน่าจะนอนตีพุงอยู่บ้านกัน
แม่น้ำทั้งสายเป็นของเราแต่เพียงผู้เดียว มันน่าตื่นเต้นมากๆ ใครจะไปคิดว่าคนเราจะสามารถเดินอยู่บนแม่น้ำได้ จริงไหม?
มุกถ่ายรูปกับน้องห่าน 2 ตัวนั้น เห็นใช่ไหม ไอ้เราก็ตกใจเห็นอย่างนั้นนึกว่าขามันติดอยู่ข้างล่าง ที่ไหนได้พอเดินไปใกล้ๆ มันดันลุกมาเดินเฉยเลย แล้วหนูๆ มานั่งกันทำไมตรงนี้จ๊ะ แหม….
พอเริ่มสายๆ หน่อย ซัก10โมงครึ่งก็เริ่มมีคนมา ส่วนใหญ่จะมาเป็นครอบครัว ไม่ก็เป็นคู่ เดินถือรองเท้าไอซ์สเก็ตกันมาเกือบทุกคน เด็กเล็กๆ 3-4 ขวบวิ่งกันคล่องมากๆ นึกถึงตัวเองสมัยเล่นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว โตขนาดนี้ยังใช้เวลาไม่รู้ตั้งกี่ชั่วโมงกว่าจะพอเดินโดยไม่จับขอบได้ เด็กๆ ที่เยอรมันได้ฝึกทั้งไอซ์สเก็ต, สโนว์บอร์ด และสกีกันตั้งแต่ยังเล็กๆ อิจฉาจังเลย
เดินตัดผ่านเข้ามาชมเมืองเล็กน้อย เงียบสงบ และน่ารักมากๆ มองจากด้านบนบ้าง โซนนี้เป็นโซนที่น้ำแข็งละลายแล้ว น้องเป็ดมาว่ายน้ำกันเต็มเลย
แอบศึกษาชั้นน้ำแข็งกันเล็กน้อย นี่คือบริเวณที่น้ำแข็งเริ่มละลาย สามารถเห็นน้ำแข็งเป็นชั้นๆ ได้เลยทีเดียว
เดินข้ามสะพานไม้ ชื่นชมสองข้างทาง
บริเวณเขื่อน น้ำจับตัวแข็งเป็นทางน้ำไหล ศิลปะดีๆ นี่เอง
บรรยากาศดีมากๆ
หลังจากเดินเลยมาอีกซักพัก บริเวณแม่น้ำก็เริ่มไม่แข็งตัวซักเท่าไหร่แล้ว ลองไปเดินๆ อยู่แป๊บนึงก็มีเสียงดัง ป็อก! โอ้โห รีบขึ้นฝั่งแทบไม่ทันเลยแหละค่ะ ฮ่าๆๆๆ (สงสัยน้ำหนักเยอะ)
แต่การเดินเลียบริมฝั่งแม่น้ำก็ใช่ว่าจะแย่ เรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว ริมแม่นำ้ตลอดทั้งสายเป็นสวนขนาดใหญ่ ที่ขอเดาว่ามันจะต้องสวยมากเหมือนกันแน่ๆ ในฤดูร้อน ตอนนั้นที่เมือง Karlsruhe หิมะละลายไปหมดแล้ว แต่ที่ Schwäbisch Hall ยังเต็มไปด้วยหิมะกองเบ้อเริ่ม
เดินพื้นราบต่อไปเรื่อยๆ ก็มองไปเห็นปราสาท Großcomburg (groß แปลว่าใหญ่) อยู่ไกลๆ ขอแวะขึ้นไปชมความงามหน่อยละกัน จริงๆได้ข่าวว่ามี Kleincomburg (klein แปลว่าเล็ก) ด้วย แต่ไม่ได้แวะไป น่าเสียดายยิ่งนัก
เห็นอยู่ในฤดูหนาวอย่างงี้ แต่กว่าจะเดินขึ้นไปถึงก็เล่นเอาเหงื่อแตกโซก หอบกันไปถ้วนหน้า ถึงกับต้องถอดเสื้อแจ็คเก็ตกันหนาวเลยทีเดียว
วิวที่มองลงมาสวยมากๆ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่บริเวณเนินเขาใกล้เคียง ให้อารมณ์เหมือนกับหมู่บ้านในนิยายเลย
หลังจากเดินรอบๆปราสาทเล็กแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำสิ่งที่ตั้งใจมาทำจริงๆ ซักที นั่นก็คือการไปเยี่ยมชาวเยอรมันที่อาศัยอยู่ที่นี่ ซึ่งเคยเป็นโฮสต์เก่าของเพื่อนร่วมทางของมุก
ขอบอกตรงนี้เลยว่า มุกเป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกาย เพราะฉนั้น จึงเป็นคนที่ไม่ค่อยแข็งแรง เอะอะทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็เหนื่อยแล้ว ทริปนี้มุกจึงเหมือนโดนเพื่อนหลอกมาทรมาน ตั้งแต่เดินขึ้นลงเนินในเมือง เดินขึ้นเขาไปปราสาท แล้วยังต้องมาเดินขึ้นเขาอีกลูกเพื่อไปพบกับโฮสต์ชาวเยอรมัน ร้องไห้สิคะ
แต่จริงๆ ก็คงต้องขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่พามาลุยทรหดด้วยกัน ถ้าไม่ได้ขึ้นเขาอีกรูปก็คงไม่ได้เห็นภาพความสวยงามแบบนี้
หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน และใช้เวลาพูดคุยกับโฮสต์ชาวเยอรมันที่น่ารักไปนานแล้ว ก็ใกล้ได้เวลากลับบ้านเสียที แน่นอนว่าหนทางการกลับไปที่สถานีหลักของเรานั้นยังอีกยาวไกล แต่ข้อดีที่ทำให้ตื่นเต้นคือ มุกจะได้กลับไปเห็นแม่น้ำซึ่งเป็นน้ำแข็งอีกครั้งก่อนกลับ แต่!!!! น่าเสียดายนัก พอตกเย็นก็มาคนมาเดิน มาเล่นไอซ์สเก็ตกันเป็นจำนวนมาก ทำให้น้ำแข็งสวยๆ ตอนเช้า สกปรกไปตามท้องเรื่อง
แต่ไม่เป็นไร ถือว่าแค่เมื่อเช้าก็คุ้มค่ามากพอแล้ว 🙂 ภาพส่งท้ายก่อนจะลาวันดีๆ กลับไปสู่ชีวิตจริง
ถือว่าเป็นทริปที่ประสบความสำเร็จ และคุ้มค่ามากๆ ถ้าหากใครมีเวลาสั้นๆ ช่วงฤดูหนาว แล้วไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำเมืองน่ารักๆ แห่งนี้ Schwäbisch Hall 🙂
ขอขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่แนะนำสถานที่ และหลอกมุกไปปีนเขา เหนื่อยมาก แต่สนุกมาก
ขอบคุณบล็อกเกอร์ประจำเว็บไซต์ส.น.ท.ย. ที่เป็นแรงบันดาลใจ ให้มุกอยากลองเขียนเล่าเรื่องของตัวเองบ้างค่ะ~!
