และแล้วก็ถึงช่วงเวลาที่มีสีสันที่สุดอีกช่วงหนึ่งของปี และยังเป็นช่วงเวลาสำคัญของกลุ่มคนที่นับถือศาสนาคริตส์อีกด้วย นั่นก็คือเทศกาลคริสต์มาส ในช่วงเวลานี้ของปีจะเต็มไปด้วยแสงสีที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไฮไลท์เด็ดที่สุดประจำช่วงเวลานี้ก็คือ ตลาดคริสต์มาส หรือชื่อภาษาเยอรมันคือ Weihnachtsmarkt นั่นเอง
ซึ่งจะมีการจัดขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงวันคริสต์มาสกันเลยทีเดียว (ช่วงเวลาการจัดงานของแต่ละเมืองจะแตกต่างกันออกไป ในเมืองขนาดเล็กอาจจะมีเพียง 2-3 วันก่อนวันคริสต์มาสเท่านั้น) ตัวผู้เขียนเองได้มีโอกาสไปเดินเล่นเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ ของตลาดในเมือง Karlsruhe Schwäbisch Hall Heidelberg Ludwigsburg และ Strasbourg จึงอยากนำภาพบรรยากาศมาฝาก พร้อมทั้งเกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้กับผู้ที่สนใจมาท่องเที่ยวในงานนี้ครับ
แน่นอนครับในเทศกาลนี้จะต้องมีต้นสนคริสต์มาสซึ่งเป็นสัญลักษณ์หลักที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว และนอกจากนี้ยังมีพีระมิดคริสต์มาส (Weihnachtspyramide) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ประจำเทศกาลคริสต์มาส พีระมิดนี้เดิมแล้วจะเป็นของตกแต่งในบ้านคนทั่วไป โดยจะมีการจุดเทียนไขรอบ ๆ ไอร้อนจากเทียนจะทำให้เกิดลมและทำให้ใบพัดหมุน ในทศวรรษที่ 20 ได้มีการริเริ่มผลิตพีระมิดขนาดใหญ่เพื่อนำมาใช้ตกแต่งในตลาดคริสต์มาส และก็ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเทศกาลนี้ไปในที่สุด
Christkindlesmarkt Karlsruhe 2017
Weihnachtsmarkt Schwäbisch Hall
ในตลาดคริสต์มาสสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือของกิน ! ทุกตลาดจะมีเครื่องดื่ม ขนมและอาหารที่หลากหลายให้ได้ลิ้มลองกัน ซึ่งอาหารมีทั้งสเต็ก ปลาแซลมอนรมควัน ไส้กรอกหรือแฮม ซึ่งจะนำมาทานกับขนมปัง ล้วนแต่เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากในงานนี้
Flammlachs คือการนำแซลม่อนครึ่งตัวตรึงไว้บนแผ่นไม้และรมควันโดยการวางในแนวตั้งด้านหน้ากองไฟ
ไส้กรอกเยอรมันหลากหลายประเภท รับประทานคู่กับขนมปังเป็นหลัก หรือสามารถสั่งเป็น Currywurst ราดซอสมะเขือเทศผสมเครื่องเทศและผงกะหรี่ ทานคู่กับเฟรนช์ฟรายด้วยก็ได้
สเต็กเนื้อหรือหมู ทานคู่กับหอมใหญ่ย่างหวาน ๆ และขนมปัง
เมนูนี้เห็นหน้าตาดูเละเทะแต่จริง ๆ อร่อยมากเลยนะ เป็นการนำเส้น Schupfnudeln เป็นเส้นที่ทำจากมันฝรั่งและไข่มาผัดกับรวมกับ Sauerkraut (กะหล่ำปลีดอง) และ เบค่อนชิ้นเล็ก ๆ
การเดินตลาดคริสต์มาสในหน้าหนาวนั้นจะยิ่งฟินขึ้นไปอีกเมื่อได้จิบไวน์ร้อน หรือ Glühwein พร้อมเดินชมบรรยากาศไปด้วย Glühwein เองก็มีให้เลือกหลากหลายชนิดเช่นกัน
Glühwein หรือไวน์ต้ม อาจมีการผสมกลิ่นหรือรสชาติของผลไม้และอบเชย รสชาติอาจแตกต่างกันออกไปตามสูตรของแต่ละร้าน มีให้เลือกทั้งแบบไวน์ขาวและไวน์แดง
Feuerzangenbowle จะมีการนำก้อนน้ำตาลมาวางด้านบน ราดด้วยเหล้ารัมแล้วจุดไฟจนกลายเป็นคาราเมลไหนลงไปใน Glühwein รสชาติจะเข้มข้นและมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่สูงกว่า Glühwein ปกติทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มที่เรียกว่า Eierpunsch เป็นไวน์ร้อนอีกชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของไข่แดงเพิ่มเข้าไปด้วย มักจะเสิร์ฟมาพร้อมกับวิปครีมด้านบน เป็นอีกเครื่องดื่มที่มีคนดื่มกันมากตามตลาดคริสต์มาส แต่ส่วนตัวผู้เขียนนั้นยังไม่กล้าลองเลย มันคงจะรสชาติแปลก ๆ นะ ไวน์กับไข่..
เด็ก ๆ หรือคนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะตามร้านเองก็จะมี Glühwein แบบไม่มีแอลกอฮอล์ขายเช่นกัน เรียกว่า Kinderpunsch หรือพั๊นช์สำหรับเด็ก
ราคาของ Glühwein จะอยู่ระหว่าง 3-4 ยูโรต่อแก้ว (0.2 ลิตร) เมื่อรวมกับค่ามัดจำแก้วราคาจะอยู่ที่ 5.5-6.5 ยูโร เพราะแก้วที่ใช้ในงานนี้จะมีลวดลายที่สวยงาม ลวดลายของแต่ละร้านก็จะแตกต่างกันออกไป ทุก ๆ การซื้อไวน์ร้อนเราจะได้รับเหรียญ Pfand ซึ่งจะนำไปใช้ในการคืนแก้วและรับเงินคืน ทั้งนี่การสะสมแก้วจากตลาดคริสต์มาสจากหลากหลายที่ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียของฝากเก๋ ๆ สำหรับหลาย ๆ คน รวมถึงตัวผู้เขียนเองด้วย
แก้วลวดลายต่าง ๆ และเหรียญ Pfand
มาที่ขนมกันบ้างครับ ในงานนี้มีขนมชนิดต่าง ๆ ซึ่งมีความหลากหลายไม่แพ้กัน เช่น Lebkuchen Langos เครป ถั่วเคลือบน้ำตาล ผลไม่เคลือบช็อคโกแลต และอื่น ๆ อีกมากมาย
Lebkuchen หรือที่รู้จักกันในชื่อขนมขิง มีส่วนผสมหลักคือ น้ำตาล น้ำผึ้ง ถั่ว และเครื่องเทศ ถือเป็นขนมยอดฮิตที่สุดของเทศกาลคริสต์มาส บนขนมจะมีการเขียนข้อความแบบต่าง ๆ ทั้งสุขสันต์วันคริสต์มาส อวยพรวันเกิด บอกรัก เป็นต้น
Langos ถ้าจะให้อธิบายแบบง่าย ๆ ก็คือเหมือนกับปาท่องโก๋ของไทยเลย แต่จะมีการราดซอสแบบต่าง ๆ ทั้งแบบคาวและแบบหวาน มีต้นกำเนิดจากประเทศฮังการี แต่เป็นขนมยอดนิยมของชาวเยอรมัน เรียกได้ว่าทุกตลาดคริสต์มาสร้านขาย Langos คิวจะยาวมาก ๆ
ผลไม้เคลือบช็อคโกแลต จะมีผลไม้ให้เลือกเช่น กล้วยหอม แอปเปิ้ล สตรอเบอรี่ และองุ่น
ถั่วชนิดต่าง ๆ เคลือบน้ำตาลผสมอบเชย
Maroni เกาลัดที่ขายแถวเยาวราชบ้านเราดี ๆ นี่เอง
พูดถึงของกินกันไปมากพอแล้ว มาถึงร้านรวงทั่วไปตามตลาดคริสต์มาสกันบ้าง แน่นอนว่าฤดูหนาวนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ความอบอุ่นทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นหมวก ผ้าพันคอ ถุงมือหรือแม้แต่ถุงเท้า เป็นร้านที่ไม่มีไม่ได้เลย
ร้านขายเทียนเป็นร้านที่เดินผ่านทีไรเป็นต้องหยุดถ่ายรูปทุกครั้ง ในร้านจะมีขายทั้งเทียนหลากหลายรูปแบบและกลิ่น รวมไปถึงที่ใส่เทียนที่มีลวดลายและสีสันสวยงามน่าดึงดูดให้ต้องเดินเข้าไปชมใกล้ ๆ ผู้เขียนเองก็อดใจไม่ไหวต้องซื้อมาไว้ที่บ้านเช่นกันครับ
บางคนอาจไม่ทราบ คนเยอรมันชอบจุดเทียนในบ้านมากครับ เทียนไขมีประโยชน์หลากหลายทั้งให้แสงสว่าง ความสวยงาม ช่วยดับกลิ่น หรือแม้แต่ใช้ในการอุ่นอาหารบนโต๊ะอาหารให้ร้อนอยู่ตลอดเวลาด้วยเช่นกันครับ
ร้านขายของฝากคริสต์มาส
นอกจากนี้ยังมีร้านขายของที่ระลึกน่ารัก ๆ อื่น ๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นโมเดลต่าง ๆ ตุ๊กตา พวงกุญแจ เห็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างนี้ แต่ราคาไม่ได้ถูกเลย เพราะถือเป็นงานฝีมือที่ประณีตและละเอียดมาก
สิ่งสำคัญเลยครับ ตามตลาดคริสต์มาสนั้นมีผู้คนมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก บางครั้งอาจจะเยอะถึงขั้นต้องเบียดกันเดิน ผู้เขียนอยากจะขอเตือนให้ผู้อ่านทุกท่านโปรดระมัดระวังกระเป๋าและทรัพย์สินให้มาก ๆ มิจฉาชีพมักจะมาพร้อมกับฝูงชนเสมอ รวมถึงแต่งตัวให้พร้อมสำหรับการเดินอยู่ข้างนอกที่อากาศหนาวเหน็บเป็นเวลานาน ตลาดคริสต์มาสส่วนใหญ่จะไม่มีที่ร่ม หากฝนหรือหิมะตกก็อาจจะทำให้ลำบากเอาได้นะครับ
สุดท้ายนี้ตัวผู้เขียนเองขอให้ผู้อ่านทุกท่านเที่ยวตลาดคริสต์มาสอย่างสนุกสนาน มีความสุขกับการเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึงในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และสวัสดีปีใหม่ครับ
Frohe Weihnachten und einen guten Rutsch !
บทความโดย CJTim, Nuttha
ภาพโดย CJTim, Nuttha, tiantee