การยื่นคำร้องขอวีซ่า

หลังจากที่เราได้ใบตอบรับจากมหาลัย และมีเงินในบัญชี Blocked Account เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาของการยื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่าแล้วนะครับ เย่ ๆ ๆ

จริง ๆ แล้วขั้นตอนขอวีซ่าเนี่ยไม่มีอะไรยากเลยครับ ไม่ต้องไปกลัวเจ้าหน้าที่กัดหัวอะไรทั้งนั้น เพราะแค่เตรียมเอกสารให้ครบตามที่บอกไว้ในเว็บ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ (ขั้นตอนเตรียมเอกสารนี่แหละครับที่ยุ่งยาก = =”) ส่วนเจ้าหน้าที่จะถามอะไรบ้าง ถ้าเราเป็นคนจัดการเรื่องทุกอย่างเองมาตั้งแต่ต้น ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะตอบไม่ได้ เพราะเค้าก็ถามคำถามธรรมดา ๆ แหละครับ จะไปทำอะไรที่ไหน เมื่อไหร่ พักที่ไหน อะไรประมาณนี้

เอกสาร/หลักฐานเพื่อประกอบการยื่นคำร้องขอวีซ่า (ฉบับจริง พร้อมสำเนา 2 ชุด):

  1. หนังสือเดินทางฉบับจริงที่ยังมีอายุการใช้ พร้อมสำเนา 2 ชุด (เฉพาะหน้าที่มีข้อมูลส่วนบุคคล) ในบางกรณีอาจต้องใช้หนังสือเดินทางเล่มเก่า
  2. รูปถ่ายแบบไบโอเมตริก  2 ใบ (มีปัญหามากครับอันนี้ เพราะบอกร้านถ่ายรูปปากเปียกปากแฉะว่าเอารูปแบบไบโอเมตริกก็ยังถ่ายออกมาผิด ถ้าอยากให้ชัวร์ก็มาถ่ายที่สถานทูตเลยก็ได้ครับ แต่ราคาแพงกว่า แนะนำว่าให้ถ่ายมาเยอะ ๆ สำหรับเผื่อไว้เอามาใช้ที่เยอรมนีด้วย เพราะที่เยอรมนี ถ่าย 4 รูป หกร้อยกว่าบาท = =”)
  3. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่าประเภท  National Visa ที่กรอกข้อความครบถ้วน 2 ฉบับ
    ต้องตอบคำถามทุกข้อ โปรดแจ้งที่อยู่ อีเมลและเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ พร้อมลงลายเซ็นที่หน้า 4 ของคำร้องด้วย ( http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/478290/Daten/4777010/LangzeitApplication.pdf )
  4. หนังสือตอบรับให้เข้าศึกษา/ใบตอบรับการจองที่เรียนล่วงหน้าจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบันเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาของนักศึกษาต่างชาติ (Studienkollegs)
  5. หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษาทุกระดับที่ผ่านมา(ประกาศนียบัตร ปริญญาบัตร) และคำแปลภาษาเยอรมัน
  6. หลักฐานการเงิน
  7. หลักฐานแสดงความรู้ภาษาเยอรมันระดับB1

จะเห็นได้ว่าตรงหลักฐานข้อ 4, 5 กับ 7 เราเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนจะสมัครเรียนแล้ว ส่วนข้อ 6 ก็มีแล้ว เป็นใบเปิดบัญชี Blocked Account ที่ธนาคาร Deutsche Bank ข้อ 1 ก็มีอยู่แล้ว ส่วนข้อ 3 กรอกแป๊บเดียวก็เสร็จ มีแค่ข้อ 2 รูปถ่ายที่ต้องไปถ่ายมาให้ถูกต้อง หน้าต้องบานที่สุดในชีวิต มีเถิกเปิดเถิก ผมที่มันกระเซอะกระเซิง รวบไปให้หมด

***อันนี้เป็นเอกสารสำหรับขอวีซ่าไปศึกษาต่อกรณีที่มีใบตอบรับจากมหาลัยแล้ว และสอบผ่านภาษาระดับ B1 แล้วเท่านั้นนะครับ ถ้าจะขอวีซ่าเพื่อไปเรียนโรงเรียนภาษา ข้อกำหนดจะต่างกัน อาจจะต้องยื่นเอกสารอื่น ๆ เพิ่มด้วย เช่นเรียงความบอกแรงบันดาลใจและเหตุผลจำเป็นที่ต้องไปเรียนภาษาที่ประเทศเยอรมนี

***ตอนผมขอวีซ่า ผมยื่นเอกสารเรื่องที่อยู่ที่จะไปอยู่ในเยอรมนีไปด้วย จริง ๆ ในเว็บสถานทูตไม่มีบอกไว้แต่ว่าเจ้าหน้าที่ที่ DAAD บอกว่าให้ใส่ไปด้วย ตอนนั้นผมจะไปเช่าห้องต่อจากเพื่อนที่เยอรมนีเป็นเวลาหนึ่งเดือน ผมก็ให้เค้าส่งอีเมลเอกสารมาให้ผม 3 อย่าง คือ 1. สัญญาเช่าห้องของเค้า 2. หน้า Passport ของเค้า 3. จดหมายที่เค้าเขียนบอกว่าเค้าจะให้เราเช่าห้องตั้งแต่วันนี้ถึงวันนี้พร้อมลงลายเซ็น

หลังจากเตรียมเอกสารสำหรับยื่นขอวีซ่าเสร็จเรียบร้อย ผมก็โทรไปนัดวันยื่นเอกสาร (ตอนไปทำอย่างอื่นที่สถานทูตนี่ไปได้เลย แต่ถ้าจะไปยื่นเอกสารขอวีซ่าต้องโทรจอง) ปรากฏว่าคิวสำหรับขอวีซ่าศึกษาต่อนี่ยาวไปเป็นเดือน =[]=” เหงื่อตกเลยเพราะว่าอีกไม่นานมากก็จะถึงวันเดินทางแล้ว ไหนจะต้องรอผลวีซ่าหลังจากไปยื่นเอกสารแล้วอีก บางคนก็ต้องรอเป็นเดือน ๆ กว่าจะได้ แต่ทำไงได้ จะไปเร่งคิวเค้าไม่ได้ ผมก็นัดวันไปทางโทรศัพท์ พอถึงวันนัดก็ไปยื่นเอกสาร เจ้าหน้าที่ก็หยิบไปดู ๆ อันไหนเค้าไม่เอาก็หยิบออก (ตอนนั้นผมแนบ Statement ทางการเงินจากธนาคารของพ่อแม่ไปด้วย แต่ว่าเค้าหยิบออก) แล้วเค้าก็ถามคำถามเกี่ยวกับเหตุผลที่จะไปนิดหน่อย พวกคำถามทั่ว ๆ ไปไม่ได้เจาะลึกเรื่องส่วนตัวอะไรเลย แล้วก็เก็บเอกสารไป แล้วก็ส่งใบแจ้งวันรับวีซ่ามาให้ ซึ่งปรากฏว่าวีซ่าชนิดที่ผมขอ หรือวีซ่าศึกษาต่อสำหรับคนที่มีใบตอบรับจากมหาลัยแล้วเนี่ย ใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์ก็ได้แล้ว! คือทางสถานทูตต้องส่งเอกสารของเราไปที่ตม. ที่เยอรมนีก่อน แต่ว่าถ้าตม. ไม่บอกปฏิเสธภายใน 3 สัปดาห์ เค้าก็จะออกวีซ่าได้เลย หลังจากนั้นเราก็จ่ายค่าธรรมเนียม น่าจะ 60 ยูโรนะ แล้วก็จบพิธีการขอวีซ่า

สุดท้ายก็ถึงวันนัด โชคดีที่ระหว่างนั้นไม่มีใครโทรมาบอกว่าวีซ่าผมโดนปฎิเสธ 55 ตอนไปรับวีซ่าก็แค่ต้องปรินท์ใบจองตั๋วเครื่องบิน กับหลักฐานประกันสุขภาพและอุบัติเหตุสำหรับช่วงเวลา 6 เดือนไป (อัพเดตล่าสุด!) ซึ่งประกันสุขภาพก็สามารถไปทำได้ง่าย ๆ ทางอินเตอร์เน็ต แล้วก็ปรินท์ออกมา เอาใบนั้นไปยื่นได้เลย รายชื่อบริษัทประกันภัยในไทยที่เป็นที่ยอมรับของสถานทูตก็สามารถไปดูได้ในลิงค์นี้ http://www.bangkok.diplo.de/contentblob/528222/Daten/4653034/Krankenversicherung.pdf

และแล้วในที่สุด ถ้าทุกอย่างดำเนินไปอย่างไม่มีอะไรขัดข้อง เราก็จะได้วีซ่าสำหรับศึกษาต่อที่ประเทศเยอรมนีมาอยู่ในครอบครอง วะฮะฮะฮ่า สำหรับวีซ่านี้ จะมีอายุแค่ 90 วัน เราต้องไปต่ออายุวีซ่าหลังจากที่เดินทางไปถึงประเทศเยอรมนี ซึ่งเราจะสามารถต่อวีซ่าได้ ก็ต่อเมื่อเราลงทะเบียนเป็นนักเรียนของมหาลัยเรียบร้อยแล้วเท่านั้น ส่วนขั้นตอนในการต่อวีซ่าเมื่อมาถึงประเทศเยอรมนีมีอะไรบ้างนั้น เดี๋ยวไว้ไปอ่านกันต่อในโพสต์หน้ากันนะครับ